พม่ากับการพัฒนากองทัพเรือและแนวโน้มการจัดหาเรือดำน้ำ

ธงกองทัพเรือพม่า (ภาพจาก Wikipedia)

กองทัพพม่าโดยรวมมีประวัติศาสตร์ของการมีบทบาททางการเมือง การคอรัปชั่น และการละเมิดสิทธิมนุษยชนมายาวนาน อย่างไรก็ดีเมื่อปี พ.ศ.2553 กองทัพพม่าได้ตัดสินใจวางมือจากบทบาททางการเมืองและจัดการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้มีรัฐบาลพลเรือนเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 50 ปี และในขณะเดียวกันได้เร่งพัฒนาขีดความสามารถและความเป็นมืออาชีพของกองทัพ รวมทั้งเพิ่มการมีส่วนร่วมในประชาคมนานาชาติควบคู่ไปกับการเปิดประเทศ โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาเพื่อให้กองทัพมีขีดความสามารถและความทันสมัยทัดเทียมประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค

เรือฟริเกต UMS Kyan Sit Thar (F 12) ของ ทร.พม่า (ภาพจาก Pakistan Defence)

ความท้าทายของกองทัพพม่านอกจากการปรับปรุงโครงสร้างและแนวคิดภายในเพื่อฉีกตัวเองออกมาจากประวัติศาสตร์ของความไม่มีประสิทธิภาพและการคอรัปชั่นแล้ว ยังมีปัญหาความขัดแย้งภายในระหว่างชนกลุ่มน้อย ซึ่งถึงแม้ว่ากองทัพพม่าจะพยามเพิ่มบทบาทในการรักษาผลประโยชน์แห่งชาติและให้ความสำคัญกับปัญหาข้อพิพาทด้านพื้นที่ทับซ้อนกับประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น แต่ปัญหาภายในประเทศของพม่าเองยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การพัฒนาของกองทัพพม่าไม่มีความรวดเร็วเท่าที่ควร

หมู่เรือฝึกญี่ปุ่นเยี่ยมเมืองท่าพม่าเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว (ภาพจาก The Nation)

ในส่วนของกองทัพเรือพม่าซึ่งดูจะมีปัญหาการคอรัปชั่นน้อยที่สุด ได้เป็นหัวหอกสำคัญในการมีบทบาทและความร่วมมือกับนานาชาติตั้งแต่ปี พ.ศ.2554 เป็นต้นมา โดยได้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนเมืองท่าและการฝึกกับต่างประเทศ ตัวอย่างเช่น การเยี่ยมเมืองท่าพม่าเป็นครั้งแรกของเรือรบญี่ปุ่นและเรือรบออสเตรเลียในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา และเยือนเมืองท่าพม่าโดยเรือรบ 3 ลำในหมู่เรือฝึกนักเรียนนายเรือของกองทัพเรือไทย นอกจากนี้พม่ายังได้ส่งเรือฟริเกตไปร่วมการฝึกนานาชาติ Milan 2014 ซึ่ง ทร.อินเดีย เป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

เรือตรวจการณ์ HMAS Armidale-Childers ของออสเตรเลีย เป็นเรือรบออสเตรเลียที่เข้าเยี่ยมเมืองท่าพม่าเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี (ภาพจาก Hla Oo’s Blog)

ในด้านการพัฒนากำลังรบ กองทัพเรือพม่าได้จัดหาเรือฟริเกต Type 053 จำนวน 2 ลำจากจีนเมื่อปี พ.ศ.2553 ในขณะเดียวกันก็ได้มีโครงการต่อเรือรบเองภายในประเทศ ได้แก่โครงการต่อเรือฟริเกตชั้น Aung Zeya จำนวน 6 ลำ ซึ่งเรือ 2 ลำแรกได้ขึ้นระวางประจำการไปแล้ว และกำลังจะมีการปล่อยเรือลำที่ 3 ลงน้ำในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้พม่ายังได้ต่อเรือเร็วโจมตีขนาด 49 ม. เพื่อทดแทนเรือเร็วโจมตีชั้น Hainan ที่จัดหาจากจีน โดยเรือ P491 ซึ่งเป็นเรือเร็วโจมตีลำแรกที่พม่าต่อเองได้ทำการปล่อยเรือลงน้ำไปแล้ว และกำลังอยู่ในระหว่างการต่อเรือลำที่ 2

เรือฟริเกต Sin Byu Shin (F 14) ของ ทร.พม่า (ภาพจาก Defense Studies)

ในส่วนของแนวโน้มการจัดหาเรือดำน้ำของพม่านั้น มีความเป็นไปได้สูงที่พม่าจะมีการจัดหาเรือดำน้ำในเร็วๆ นี้ สืบเนื่องจากข่าวการจัดหาเรือดำน้ำชั้น Ming (Type 035) จำนวน 2 ลำของบังกลาเทศ โดยจะมีการส่งมอบเรือในปี พ.ศ.2562 ซึ่งจะทำให้ดุลย์อำนาจในอ่าวเบงกอลเปลี่ยนไป ทั้งนี้มีข่าวว่าพม่าได้ส่งกำลังพลไปฝึกอบรมหลักสูตรเรือดำน้ำที่ปากีสถานเมื่อปีที่แล้ว และคาดว่าพม่าอาจมีการจัดหาเรือดำน้ำจากรัสเซียในเร็วๆ นี้