ชื่อนั้นสำคัญไฉน – ปืนใหญ่วิถีราบกับปืนใหญ่วิถีโค้ง

ปืนใหญ่เรือขนาด 76/62 มม. (ภาพโดยกัปตันนีโม)

ปืนใหญ่เป็นอาวุธที่มีมานาน และมีการพัฒนารูปแบบที่แตกต่างกันไปเป็นจำนวนมาก สามารถติดตั้งประจำที่ บนป้อมปืน รถลาก รถถัง เรือรบ หรือแม้กระทั่งบนเครื่องบิน และถึงแม้จะเป็นอาวุธที่ดูจะเก่าโบราณ แต่ด้วยการคำนวณและระบบควบคุมการยิงสมัยใหม่ก็ทำให้ปืนใหญ่เป็นอาวุธที่มีความแม่นยำและยังคงมีใช้งานอย่างแพร่หลาย

การแบ่งประเภทของปืนใหญ่ตามวิถีการยิง แบ่งออกได้เป็นปืนใหญ่วิถีราบ กับปืนใหญ่วิถีโค้ง ซึ่งปืนใหญ่ทั้งสองประเภทไม่มีความแตกต่างกันมากเรื่องระยะยิง แต่ด้วยวิถีกระสุนที่ต่างกันทำให้มีการใช้งานรวมถึงวิธีการเล็งยิงที่ต่างกันไปด้วย

หลักการ Projectile เป็นพื้นฐานของการยิงปืนใหญ่ (ภาพจาก Wikipedia)

ปืนใหญ่วิถีราบเป็นปืนใหญ่ที่มีมุมเล็งยิงสูงสุดไม่เกิน 45 องศา สำหรับเป้าในแนวระดับ ซึ่งที่จริงแล้ววิถีกระสุนของปืนใหญ่วิถีราบก็ยังคงมีความโค้งอยู่ แต่มุมโค้งจะน้อยกว่าเนื่องจากมุมเล็งยิงมีความใกล้เคียงกับมุมเป้าในทางมุมกระดก (Elevation) ข้อดีของปืนใหญ่วิถีราบคือสามารถเล็งยิงที่เป้าได้โดยตรง และลูกกระสุนจะใช้เวลาเดินทางถึงเป้า (Time of Flight) น้อยกว่าการยิงแบบวิถีโค้ง แต่ก็มีข้อเสียคือไม่สามารถยิงเป้าที่ถูกบังอยู่หลังสิ่งกีดขวางเช่นป้อมปราการหรือเนินเขาได้ (เว้นแต่จะมีมุมยิงสูงเพียงพอที่จะข้ามสิ่งกีดขวางได้) และเนื่องจากมุมตกของกระสุนเป็นมุมค่อนข้างราบทำให้มีโอกาสแฉลบ (Ricochet) ไประเบิดหลังเป้าได้ง่าย ปืนใหญ่วิถีราบมีใช้กับปืนใหญ่สนามของทหารบก ปืนใหญ่รถถัง ปืนใหญ่เรือทุกประเภท และปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน

การเล็งยิงปืนใหญ่วิถีราบ (ภาพจาก ATTP 3-21.50)

ปืนใหญ่วิถีโค้งเป็นปืนใหญ่ที่มีมุมเล็งยิงตั้งแต่ 45 องศาขึ้นไป สำหรับเป้าในแนวระดับ โดยจากแผนภาพการเคลื่อนที่แบบ Projectile จะเห็นว่าการเพิ่มมุมเล็กยิงสูงเกิน 45 องศาจะไม่เป็นการเพิ่มระยะยิง แต่จะทำให้วิถีกระสุนสูงขึ้นกว่าการยิงวิถีราบในระยะยิงที่เท่ากัน ทำให้สามารถยิงข้ามสิ่งกีดขวางได้ แต่ก็จำเป็นต้องใช้การเล็งยิงแบบพิเศษเนื่องจากไม่สามารถมองเห็นเป้าได้โดยตรง ข้อดีของปืนใหญ่วิถีโค้งคือสามารถยิงเป้าที่อยู่หลังสิ่งกีดขวางเช่นป้อมปราการหรือเนินเขาได้ นอกจากนี้มุมตกของกระสุนที่สูงทำให้ไม่เกิดการแฉลบไประเบิดหลังเป้า แต่ข้อเสียคือกระสุนใช้เวลาเดินทางถึงเป้า (Time of Flight) นานกว่า จึงต้องใช้เวลามากกว่าในการปรับแก้การเล็ง และไม่เหมาะกับการยิงเป้าที่มีความเร็วในการเคลื่อนที่ (เช่นเรือรบและเครื่องบิน) ปืนใหญ่วิถีโค้งมีใช้กับปืนใหญ่สนามของทหารบกและทหารนาวิกโยธิน

ปืนใหญ่วิถีโค้งมีมุมยิงสูงและสามารถยิงเป้าหมายหลังที่กำบังได้ (ภาพจาก ATP 3-21.50)

การเล็งยิงปืนใหญ่วิถีราบใช้กับการยิงเป้าที่มองเห็นได้และสามารถเล็งไปที่เป้าได้โดยตรง เรียกว่าการยิงตรง (Direct Fire) โดยปรับแก้มุมกระดกตามระยะของเป้า และใช้การยิงดักหน้าสำหรับเป้าที่มีการเคลื่อนที่ ส่วนการเล็งปืนใหญ่วิถีโค้ง (หรือปืนใหญ่วิถีราบที่สิ่งกีดขวางไม่สูงมาก) ที่มองไม่เห็นเป้าโดยตรง จะใช้การเล็งไปที่จุดเล็งรอง เรียกว่าการยิงแฝง (Indirect Fire) โดยจุดเล็งรองไม่จำเป็นต้องอยู่ในทิศทางเดียวกับเป้า แต่จะต้องทราบค่ามุม Offset ระหว่างเป้ากับจุดเล็งรอง

การยิงแฝงโดยเล็งไปที่จุดเล็งรอง (ภาพจากโรงเรียนนายเรือ)

1 thought on “ชื่อนั้นสำคัญไฉน – ปืนใหญ่วิถีราบกับปืนใหญ่วิถีโค้ง

  1. Pingback: วิวัฒนาการของการยิงปืนใหญ่เรือ – กว่าจะมาเป็นระบบควบคุมการยิงอัตโนมัติสมัยใหม่ | กัปตัน

Leave a comment